เทศน์เช้า

กรรม

๓o เม.ย. ๒๕๔๔

 

กรรม
พระอาจารย์สงบ มนสฺสนฺโต

เทศน์เช้า วันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๔๔
ณ วัดสันติธรรมาราม ต.คลองตาคต อ.โพธาราม จ.ราชบุรี

 

ธรรมะเป็นที่พึ่งของใจ ธรรมเป็นที่พึ่งของใจแล้วนี้วันพระ วันพระเป็นวันทำบุญ ทำบุญเป็นแสวงหาธรรมไง การทำบุญกุศลเป็นแสวงหาธรรมทางหนึ่ง เอาธรรมเข้าหัวใจ บุญกุศลเป็นธรรมไง

กุศล อกุศล กุศลเป็นธรรม คุณงามความดี อกุศลเป็นสิ่งที่ว่ามันแปรปรวน แปรสภาพ มันขัดข้องใจ อกุศลเป็นสิ่งที่ไม่ปรารถนา แต่มันก็เกิดขึ้นกับเราเพราะอะไร? เพราะคนเราเคยทำบุญกุศลและอกุศลมาด้วยกัน เคยทำมาทั้งนั้น นั้นไอ้เคยทำมามันถึงให้ผลไง

แต่เวลาให้ผลแล้วเราจะบังคับ เห็นไหม นักวิทยาศาสตร์จะเอาชนะธรรมชาติ พยายามจะเอาชนะธรรมชาติให้ได้ แล้วเดี๋ยวนี้หมอก็เหมือนกัน หมอเขาบอกว่าเวลาคนป่วยเต็มที่แล้วจะให้ตายโดยไม่ผิดกฎหมาย คือว่าให้ตายด้วยความเมตตา เราบอกว่านี่จะเอาชนะธรรมชาติ กรรมมันให้ผลนะ เวลากรรมมันให้ผลต่างกัน กรรมให้ผล

ถ้าพูดถึงให้ผลที่สุดนะ อยู่ในกฎแห่งกรรม มีอยู่ครอบครัวหนึ่งมีพี่กับน้อง แล้วมีลูกมา ลูกนะผลาญจนหมดตัวเลย หมดตัวเลยนะ จนเสียใจตายไป ไปเข้าฝันน้องสาว ว่าให้ไปเอาเงินของตัวเองไปให้ลูกอีก ๕๐ สตางค์ ถ้าไม่ได้ให้ มันต้องไปเกิดอีกชาติหนึ่งไปใช้ มันเป็นกรรมต้องไปร่วมใช้ต่อกัน

นี่ก็เหมือนกัน ย้อนกลับมาที่ว่าคนมันจะตาย ถ้ามันยังไม่ถึงที่ตาย เห็นไหม คนยังไม่ถึงตายมันทรมานอยู่ ฉีดยาให้ตายไป กรรมเขาต้องใช้ของเขา คือว่ากรรมมันให้ผล แล้วหมอนี่จะปฏิเสธกรรมอันนั้นได้อย่างไร? วิทยาศาสตร์จะเอาชนะไง วิทยาศาสตร์จะเอาชนะธรรมชาติ จะปกครองธรรมชาติ แต่เป็นไปไม่ได้เลย

ดูอย่างเวลาพายุมา เห็นไหม จะแข็งแรงขนาดไหน แผ่นดินไหวนะ ทำไม่ดีขนาดไหน เอาชนะธรรมชาติไม่ได้ เพราะถ้าเอาชนะธรรมชาติได้มันก็เอาชนะกรรมได้สิ กรรมดีกรรมชั่วมันให้บุญกุศลกับตัวเราเอง ถ้าเอาชนะกรรมไม่ได้ เอาชนะธรรมชาติไม่ได้หรอก ธรรมชาติมันก็เป็นสภาวะของมัน แต่ถึงจุดหนึ่งมันต้องให้ผลของมันๆ เวลาให้ผลของมัน เพราะคนสร้างกรรมไว้ ธรรมชาติจะให้ผลเป็นอย่างนั้น

นี่ก็เหมือนกัน โรคภัยไข้เจ็บ เห็นไหม โรคของกรรมอย่างหนึ่ง โรคของเราเจ็บไข้ได้ป่วยตามธรรมชาติอย่างหนึ่ง โรคของอุปาทานอย่างหนึ่ง โรคมี ๓ ชนิด เห็นไหม โรคของกรรม มันเป็นกรรมมันต้องเป็นโรคอย่างนั้นแล้ว เราต้องอาศัยบุญกุศลช่วยเหลือกันไป แล้วโรคที่เสื่อมสภาพโดยธรรมชาติของมัน ร่างกายที่เสื่อมสภาพไปแล้วมันก็ต้องแก้ไขไปด้วยโลก ด้วยหมอ ด้วยทางวิทยาศาสตร์ ถ้ามันแก้ไขได้ ถ้าแก้ไขไม่ได้มันต้องโยนให้เป็นกรรมไป เป็นกรรมมันก็เป็นธรรมชาติ สิ่งที่เป็นธรรมชาติ มันเกิดมามันต้องเป็นอย่างนั้น นี่มันให้ผลเป็นอย่างนั้น

นี้นักวิทยาศาสตร์จะควบคุมธรรมชาติ จะควบคุมกรรม มันเหนืออันนั้นไปไม่ได้ กรรมต้องให้ผล อย่างนั้นเราทำบุญกุศลมันก็ไม่ให้บุญกุศลเราสิ นี่เวลาทำบุญกุศลให้บุญกุศลไม่ให้บุญกุศล ทำอกุศลมันจะไม่ให้ เห็นไหม ทำบาปในที่ลับแล้วจะไม่มี ทำบุญกุศลแล้วจะไม่ให้ผลตอบแทนขึ้นมา มันให้ผลตอบแทนขึ้นมา

เราต้องเป็นคนที่ฉลาด ถ้าเราฉลาดเราจะเข้าใจเรื่องสิ่งนี้ ถ้าเราฉลาดเรื่องนั้น กรรมอันนั้นให้ผลเป็นสภาวะ เราถึงต้องทำคุณงามความดีไง ทำคุณงามความดีไปเพื่อบุญกุศลให้เข้ามาหัวใจของเรา แล้ววันนี้เป็นวันพระด้วย วันพระนี่เป็นวันสากลที่ว่าเขาทำบุญกุศลร่วมกัน แล้วส่งบุญกุศลไป เทวดา พวกอินทร์ พวกพรหมนี่เขาก็ทำบุญกุศลของเขา เพราะมันเป็นวันพระวันเจ้า นี่ทำบุญกุศลวันนี้แล้วอุทิศส่วนกุศลไป เห็นไหม สัตว์ที่จะได้รับบุญกุศลจากเรา เขาจะได้รับบุญกุศลจากเรา

สัตว์ที่เขาอยู่เหนือเรา เขาเห็นเราเป็นคนคุณงามความดี เห็นไหม ทำคุณงามความดี คนดีเทวดาปกป้อง เทวดาผีคุ้มครอง พระอินทร์พระพรหมต้องคุ้มครอง คุ้มครองอย่างนั้น คุ้มครองว่าเขาก็ปรารถนาดี เราก็ปรารถนาดี แต่ถ้าเราทำของเราแล้วเขาไม่ปรารถนาผลของเรา แต่คนคุณงามความดี มันเข้ากันด้วยคุณงามความดี คนดีเข้าคนดี เข้ากันด้วยธาตุไง คนๆ นี้ดี คนๆ นี้น่าคบนะ น่าเลื่อมใส คนๆ นี้เป็นคนที่เราน่าเคารพศรัทธา นี่คนดี

ถ้าคนไม่ดี เราก็ไม่อยากจะเข้าใกล้ เขาไม่ต้องการผลของเรา แต่เขาก็ต้องการน้ำใจของเรา เห็นไหม เขาว่าเข้ากันด้วยธาตุ มันเข้ากันด้วยคุณงามความดีอันนั้น บุญกุศลมันก็ให้ผลอย่างนั้น คือว่าถ้าเราอุทิศส่วนกุศลไปเขาจะได้รับไม่ได้รับ... ได้รับแน่นอน ถ้าจุดที่เขาต้องได้รับบุญกุศลของเรา ถ้าเขาต้องการบุญกุศลอันนั้นนะ แต่ถ้าเขาเกิดเป็นเทวดา เป็นอินทร์ เป็นพรหมสูงขึ้นไปแล้ว อาหารของเขาเป็นทิพย์อยู่แล้ว แต่มันก็รับรู้เรื่องกัน ต้องรับรู้ได้ รับรู้ได้แต่โดยไม่เอา ถึงว่าวันพระมันเป็นวันที่ทำบุญแล้วได้กุศลมาก เราเป็นคนที่ฉลาด เราถึงว่าทำบุญกุศลแล้วให้เข้ามาถึงใจของเรา แล้วให้สะสมไป

ทุกข์มันเป็นธรรมชาติของมันนะ ทุกข์มันมีอยู่ด้วยกันทุกคน ทุกคนนี่มีความทุกข์ขึ้นมาด้วยเกิดขึ้นมาแล้วมีความทุกข์โดยธรรมชาติของมัน เพราะชาตินี้เป็นที่รับรองของความทุกข์ เพราะการเกิดถึงการมี การเกิดเป็นการรับผิดชอบ นี้มันมีอยู่แล้ว เราจะปฏิเสธอย่างนั้นได้อย่างไร?

ในเมื่อเราปฏิเสธไม่ได้ มันแก้ไขได้ พระพุทธเจ้าสอนไว้อย่างนี้ ให้ทำคุณงามความดี คุณงามความดีนั้นต้องให้ผลเป็นผลดี ลมให้ผลเป็นความเบาไง ความเบาให้ผลเป็นลอยขึ้นที่สูง ความหนักให้ผลในกดลงที่ต่ำ

อกุศลเวลามันเกิดขึ้นมากับหัวใจของเรา มันทำให้เราคิดมากเครียดมาก เห็นไหม ความเครียดอันนั้นเป็นความหนักหน่วง ความที่ไม่เครียด ความเบา ความสบายใจ เป็นเรื่องของบุญกุศล นี่เอาเรื่องอย่างนี้เข้ามาถึงเป็นสมบัติของใจ

สมบัติของใจกับสมบัติของกายนะ เครื่องใช้ไม่สอย ปัจจัย ๔ นี่ เครื่องอยู่อาศัยเป็นเครื่องอยู่ของกายเฉยๆ เครื่องอยู่ของใจ...นี่ธรรมารมณ์ เป็นธรรมมันเป็นอารมณ์ เป็นเครื่องอยู่ของใจ อาหารของใจ คืออารมณ์ที่เข้าถึงหัวใจนี้เป็นอาหารของใจ เราต้องเอาอาหารนั้นเข้าถึงใจของเรา

ถ้าเข้าถึงใจของเรา มันได้สุขอันหนึ่ง สุขแล้วไม่พอ มันยังสะสมไปชาติภพต่างๆ เห็นไหม มันสะสมของมันไป มันให้ผลต่อไปในชาติหน้าชาติต่อไป เรายังเวียนเกิดเวียนตายอยู่ พระพุทธเจ้าสอน “ที่มานี่มาจากไหน?”

“บุญกุศลพาเกิดมา เราถึงได้เกิดมามีบุญกุศลพาเกิดมา ถึงได้เกิดเป็นมนุษย์ เกิดเป็นมนุษย์แล้วมีโอกาส”

ดูสิว่าเราทุกข์เรายาก ดูสัตว์สิ ดูสัตว์ทั่วๆ ไปที่มันไม่มีโอกาสได้ทำของมันนะ มันจะเอาคุณงามความดี มันก็ประจบเจ้านายมันเท่านั้นเอง มันได้แค่นั้น แล้วมันก็เป็นคุณงามความดีได้สิ่งตอบแทนไป ลูบหัวทีมันก็พอใจแล้ว แต่เราไม่เป็นอย่างนั้นนี่นา เราว่ามันลูบหัวแล้วเรายังเข้าใจอยู่ว่าเราลูบหัว เห็นไหม ลูบหัวของเรา มีบุญกุศลไปลูบหัวของเราให้มัน... (เทปสิ้นสุดเพียงเท่านี้)